Tel. 064-618-5975 , 02-077-2820 , 034-425095 | Line ID : @srpbattery
แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า Traction battery
แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า หัวใจสำคัญของการขนส่งในคลังสินค้า
รถโฟล์คลิฟท์เป็นเครื่องจักรสำคัญในการขนย้ายและยกวัสดุในโรงงาน คลังสินค้า และพื้นที่อุตสาหกรรมต่างๆ โดยมีหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่แตกต่างกันไป
การจำแนกประเภทของรถโฟล์คลิฟท์
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift): ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เหมาะสำหรับการใช้งานในร่ม เนื่องจากไม่มีไอเสียและเสียงดัง
รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล (Diesel Forklift): ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งและงานหนัก
รถโฟล์คลิฟท์แก๊ส (LPG Forklift): ใช้แก๊ส LPG เป็นเชื้อเพลิง เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง
การเลือกใช้รถโฟล์คลิฟท์ให้เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ
ชนิดของสินค้าที่จะยก: น้ำหนัก ขนาด รูปร่าง
สภาพแวดล้อมในการทำงาน: ในร่ม กลางแจ้ง พื้นผิว
ความสูงในการยก: ระยะทางในการเคลื่อนย้าย
งบประมาณ: ราคาของรถโฟล์คลิฟท์และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง
1. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่มีไอเสีย: รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าไม่ปล่อยไอเสียหรือมลพิษทางอากาศ ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ปิด เช่น คลังสินค้า โรงงาน หรือพื้นที่ที่มีการควบคุมคุณภาพอากาศ
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: การใช้พลังงานไฟฟ้าช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน
2. เงียบและสะอาด
เสียงรบกวนน้อย: รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าทำงานเงียบ ทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานดีขึ้น และไม่รบกวนพนักงานคนอื่นๆ
ลดฝุ่นละออง: ไม่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง จึงไม่เกิดฝุ่นละออง ทำให้พื้นที่ทำงานสะอาด
3. ประหยัดค่าใช้จ่าย
ค่าไฟฟ้าถูกกว่าเชื้อเพลิง: ค่าไฟฟ้าโดยทั่วไปมักจะถูกกว่าค่าเชื้อเพลิงดีเซลหรือแก๊ส LPG
ค่าบำรุงรักษาต่ำ: รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า ทำให้ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า
อายุการใช้งานยาวนาน: ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
4. ใช้งานง่าย
ควบคุมง่าย: รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีระบบควบคุมที่ง่ายต่อการใช้งาน
เร่งและเบรกได้นุ่มนวล: ทำให้การทำงานมีความปลอดภัยมากขึ้น
5. เหมาะสำหรับงานที่หลากหลาย
ใช้งานได้ในพื้นที่จำกัด: ขนาดที่กะทัดรัดทำให้สามารถใช้งานในพื้นที่แคบได้
มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย: สามารถปรับแต่งเพื่อให้เหมาะกับงานที่หลากหลาย
6. เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย
ป้องกันการระเบิด: ไม่มีเชื้อเพลิงที่ติดไฟ จึงลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ: ไม่ปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน
อุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
คลังสินค้า: เนื่องจากไม่มีไอเสีย จึงเหมาะสำหรับใช้งานในคลังสินค้าที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น
โรงงานผลิต: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเงียบและสะอาด เช่น โรงงานผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ยา หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ศูนย์กระจายสินค้า: เหมาะสำหรับการขนย้ายสินค้าภายในอาคาร
ห้องเย็น: เนื่องจากไม่เกิดความร้อนจากเครื่องยนต์ จึงเหมาะสำหรับใช้งานในห้องเย็น
โรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการ: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสะอาดและปราศจากมลพิษ
ห้างสรรพสินค้า: เหมาะสำหรับการขนย้ายสินค้าภายในอาคาร
งานที่เหมาะสมกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
การขนย้ายสินค้าในพื้นที่จำกัด: รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีขนาดกะทัดรัด ทำให้สามารถใช้งานในพื้นที่แคบได้
การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมอุณหภูมิ: เช่น ห้องเย็น หรือห้องที่ต้องการควบคุมความชื้น
งานที่ต้องการความเงียบ: เช่น โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ห้องสมุด หรือห้องเก็บเอกสาร
งานที่ต้องการความสะอาด: เช่น โรงงานผลิตอาหาร หรือโรงพยาบาล
งานที่ต้องยกของบ่อยและต่อเนื่อง: รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีความทนทานและใช้งานได้ยาวนาน
ยี่ห้อรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายอดนิยมในไทย
Toyota: เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดยี่ห้อหนึ่งในตลาดโลก รวมถึงในประเทศไทย โดดเด่นในเรื่องความทนทาน ประสิทธิภาพ และมีอะไหล่ให้เลือกใช้อย่างครบครัน
Nichiyu: เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้ และมีการออกแบบที่เน้นความปลอดภัย
Komatsu: เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในด้านเครื่องจักรหนักต่างๆ รวมถึงรถโฟล์คลิฟท์ โดยมีจุดเด่นในเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ
Hyundai: เป็นแบรนด์เกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงในด้านราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และมีคุณภาพที่น่าพอใจ
แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ในกลุ่ม Traction Battery
แบตเตอรี่กลุ่มนี้ ประเภทนี้สามารถใช้งานได้กว้างขวาง ในกลุ่ม รถโฟล์คลิฟท์ Forklift รถยกไฟฟ้าX-lift รถขัดพื้น รถสแตกเกอร์ไฟฟ้า Electric Stacker, Electric Pallet Truck เป็นแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน มีความทนทานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่รถกอล์ฟ หรือแบตเตอรี่รถยนต์
ประเภทของแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่นิยมใช้มีสองชนิดหลัก ได้แก่ แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไป การชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์
นอกจากนี้ การดูแลรักษาแบตเตอรี่ยังรวมถึงการตรวจสอบระดับน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ การทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ และการเก็บรักษาในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้จะช่วยให้แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ส่งผลให้การดำเนินงานในคลังสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
แบรนด์แบตเตอรี่โฟล์คลิฟยอดนิยม และทำตลาดมาอย่างยาวนานในไทยได้แก่ 3K และ GS YUASA
โฟล์คลิฟท์
มาดูกันว่าเมื่อไหร่ที่เราควรจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าของเรากัน
อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยของแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจะอยู่ที่5ปี แต่ก็ไม่แนเสมอไป เพราะถ้าคุณมีการดูแลแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่ดี อายุการใช้งานแบตเตอรี่โฟล์คลิฟไฟฟ้าก็อาจจะมากกว่านั้น แต่ถ้าคุณใช้งานแบตเตอรี่โฟล์คลิฟไฟฟ้าหนัก และไม่มีการดูแลที่ดี อายุการใช้งานของแบตเตอรี่โฟล์คลิฟไฟฟ้าก็อาจสั้นกว่า5ปีได้
เมื่อแบตเตอรี่โฟล์คลิฟไฟฟ้าเริ่มจะเสีย มันจะมีอาการอะไรบ้างที่เราสามารถสังเกตุเห็นได้
- แบตเตอรี่โฟล์คลิฟไฟฟ้าจะหมดเร็วกว่าปรกติในรอบการใช้งาน
- คุณจำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่โฟล์คลิฟไฟฟ้าบ่อยขึ้นใน1วันการทำงาน
- คุณสามารถสังเกตุเห็นการสึกกร่อนของแบตธาตุตะกั่วในแบตเตอรี่ได้
- แบตเตอรี่โฟล์คลิฟไฟฟ้าเริ่มมีควัน หรือไอน้ำกรดออกมาในขณะที่ชาร์จ หรือในขณะที่ใช้งาน (ในรูปแบบนี้ถือว่าอันตรายมากควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่โฟล์คลิฟไฟฟ้านั้นทันทีหรือเร็วที่สุด)
คู่มือการใช้งานและการบำรุงรักษาแบตเตอรี่สำหรับรถยกไฟฟ้า
[1] แบตเตอรี่
หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักจนไฟหมด ถ้าแบตเตอรี่ถูกใช้งานจนรถไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ จะทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้นผู้ใช้งานแบตเตอรี่จึงควรปฎิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- หยุดใช้งานแบตเตอรี่เมื่อปริมาณไฟแบตเตอรี่เหลือ20-25%ของไฟเต็มโดยสามารถดูได้จากตัววัดระดับไฟของแบตเตอรี่ ข้อควรระวัง: ถ้าแบตเตอรี่ถูกใช้งานจนไฟหมดจะทำให้อุณหภูมิของน้ำกรดสูงโดยเฉพาะเซลล์ ที่อยู่ตำแหน่งตรงกลางชุดแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่ถูกใช้งานในลักษณะนี้เป็นประจำ จะทำให้แบตเตอรี่เซลล์ใดเซลล์หนึ่ง เสียก่อนเซลล์อื่นและอายุการใข้งานแบตเตอรี่จะสั้น
- หยุดใช้งานแบตเตอรี่เมื่อรถยกไฟฟ้าเริ่มอ่อนกำลังลง ซึ่งค่า ถ.พ. (ค่าความถ่วงจำเพาะ) ของน้ำกรดที่วัดได้จะต่ำกว่า 1.180 ที่อุณหภูมิ 20 องศา โดยสามารถวัดค่า ถ.พ. ดังกล่าวได้โดยใช้ ไฮโดรมิเตอร์ หมายเหตุ กล่องเครื่องมือสำหรับตรวจเช็คแบตเตอรี่ (ไฮโดรมิเตอร์,กรวย,เทอร์มิโนมิเตอร์) จะถูกจัดส่งพร้อมกับแบตเตอรี่ใหม่
- ไม่ควรนำแบตเตอรี่มาชาร์จไฟในช่วงเวลาสั้นๆ ในระหว่างการใช้งานแบตเตอรี่ เพราะจะทำให้การเปลี่ยนแปลงทางเคมีภายในเซลล์แบตเตอรี่ไม่สมบูรณ์และอุณหภูมิของน้ำกรดจะสูงผิดปกติ ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว
ในกรณีที่ต้องใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องมากกว่า 6 ชั่วโมง ควรมีแบตเตอรี่สำรอง ถ้าไม่เช่นนั้นจะทำให้แบตเตอรี่เซลล์ใดเซลล์หนึ่งเสียหรออายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้น
[2] การชาร์จไฟแบตเตอรี่
- การชาร์จไฟประจำวันต้องชาร์จไฟหลังการใช้งานแบตเตอรี่ตามข้อ 1.1 เนื่องจากการปล่อยให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาวะไฟหมด โดยไม่นำไปชาร์จไฟ จะมีผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่และ อุณหภูมิของน้ำกรดในระหว่างการชาร์จไฟจะต้องไม่เกิน 55 องศา
- ต้องแน่ใจว่าเสียบปลั๊กไฟแน่นก่อนการชาร์จไฟ เนื่องจากอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดความร้อนและประกายไฟได้
- ถ้าใช้เครื่องชาร์จอัตโนมัติหรอติดมากับรถ ให้ปฎิบัติตามคู่มือของเครื่องชาร์จนั้น
- วิธีตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ถูกชาร์จไฟเต็มหรอไม่ สามารถตรวจสอบได้ดังนี้
- ถ้าชาร์จแบตเตอรี่ด้วย เครื่องชาร์จอัตโนมัติ ให้ทำตามคู่มือของเครื่องชาร์จไฟ (ในกรณีที่ปริมาณไฟเหลือ 20-25% เครื่องชาร์จจะใช้เวลาในการชาร์จไฟกลับให้ได้ 115-120% เป็นเวลา 8-10 ชั่วโมง)
2.2 การชาร์จไฟเพื่อปรับค่า ถ.พ. ของน้ำกรด (Equalizing Charge)
ควรชาร์จไฟเพื่อปรับค่า ถ.พ. เดือนละครั้งตามวิธีดังต่อไปนี้
- ถ้าชาร์จไฟด้วยเครื่องชาร์จอันตโนมัติให้ทำตามคู่มือของเครื่องชาร์จไฟ
- ถ้าชาร์จดว้ยเครื่องธรรมให้ชาร์จต่ออีก 2-3 ซม.หลังการชาร์จไฟตามปกติแล้ว
- แบตเตอรี่ที่ถูกใช้งานหนักควรเพิ่มความถี่ในการชาร์จไฟเพื่อปรับค่า ถ.พ.เป็นเดือนหลัง 2 ครั้ง
- แบตเตอรี่ใหม่ทำให้การชาร์จแบบ Equalizing Charge เป็นจำนวน 10 รอบแรกของการใช้งานหลังจากนั้นให้ชาร์จตามปกติ
[3] ตรวจเช็คระดับน้ำกรด
- โดยปกติน้ำที่ผสมในน้ำกรดจะสูญเสียไปขณะการชาร์จไฟ ให้ตรวจระดับน้ำกรดอย่างสม่ำเสมอโดยดูจากจุกระบายอากาศ
- ถ้าลูกลอยจุกระบายอากาศอยู่ระดับต่ำสุด ให้เติมน้ำกลั่นทันที (ห้ามเติมน้ำกรด)
- ปิดจุกระบายอากาศให้แน่นหลังจากเติมน้ำกลั่น แล้วเช็คผิวบนแบตเตอรี่ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
- กรณีเป็นฝาจุกแบบเติมน้ำอัตโนมัติ (Auto Filler) ให้ตรวจสอบดังนี้
- ขณะเติมน้ำกลั่นให้ตรวจสอบดูว่ามีรั่วไหลออกมาตามท่อหรอข้อต่อหรอไม่
- ให้เปิดฝาจุกขณะเติมน้ำกลั่นเพื่อตรวจสอบ การขึ้น-ลง ของลูกลอย หากพบว่าลูกลอยค้างให้ใช้นิ้วผลักลูกลอยเบาๆ เพื่อแก้ไข
- หากพบความผิดปกติให้ทำการแก้ไขหรอแจ้งบริษัทผู้ผลิตเพื่อเข้าการตรวจ สอบและแก้ไข
[4] การระบายอากาศ
เนื่องจากในขณะที่ชาร์จไฟแบตเตอรีจะเกิดก๊าซออกซิเจนและไฮโดรเจน ซึ้งถ้ามีการสะสมของก๊าซดังกล่าวในปริมาณมากและมีสะเก็ดไฟหรอประกายไฟเกิดขึ้นภายใน หรอบริเวณไกล้เคียงพื้นที่ชาร์จแบตเตอรี่ อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดการระเบิดได้ ดังนั้นเพื่อหลีกเสี่ยงความเสียหายแบตเตอรี่และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกิดจากการระเบิด พื้นที่ชาร์จแบตเตอรี่จะต้องมีการถ่ายเทอากาศที่ดีและห้ามทำ กิจกรรมใดที่ทำให้เกิดสะเก็ดไฟหรอประกายไฟ ใกล้พื้นที่ชาร์จแบตเตอรี่ เช่น การสูบบุหรี่ การเชื่อ ฯลฯ หมายเหตุ ให้เปิดฝารถโฟล์คลิฟท์ทุกครั้งเมื่อชาร์จแบตเตอรี่บนรถโฟล์คลิฟท์ หรอเปิดฝาถังแบตเตอรี่ทุกครั้งเมื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่
[5] การทำความสะอาดแบตเตอรี่
- รักษาแบตเตอรี่ให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไฟรั่วและการผุกร่อนของถังแบตเตอรี่
- ทำความสะอาดแบตเตอรี่ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ทุกครั้งหลังการเติมน้ำกลั่น
- ภายในของฝาจุกซึ้งปกติใส ถ้ามีสิ่งสกปรกให้ถอดออกมาทำความสะอาดด้วยสารที่ใช้ทำความสะอาดตามครัวเรือน
- ถังที่ไม่มีรูระบายน้ำ ให้ทำการดูดน้ำผ่านท่อดูดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- ควรล้างแบตเตอรี่ ทุก ๆ 3เดือน เพื่อป้องกันไฟรั่ว
วิธีการล้างแบตเตอรี่ นำแบตเตอรี่ออกจากรถยกไฟฟ้า ปิดฝาจุกแบตเตอรี่ทุกเซลล์ให้แน่น แล้วฉีดน้ำล้างบนชุดแบตเตอรี่เพื่อ ให้น้ำล้างคราบน้ำน้ำกรดอยู่ระหว่างเซลล์ออก ทิ้งแบตเตอรี่ไว้ประมาณ 30 นาทีเพื่อให้น้ำไหลออก
ข้อควรระวัง ควรล้างแบตเตอรี่ในพื้นที่เฉพาเนื่องจากน้ำที่ล้างออกมาจะมีสภาพเป็นกรดเจือจาง
[6] การจัดการกับเศษซากแบตเตอรี่ ที่หมดอายุการใช้งาน
- ไม่ทิ้งซากแบตเตอรี่ ปะปนกับขยะทั่วไป
- ไม่นำซากแบตเตอรี่ ไปเผา ฝังดิน หรอทิ้งลงแหลางน้ำ
- จัดเก็บไว้ในพื้นที่ ที่มีภาชนะรองรับที่กันการกัดกร่อนของกรดได้ เช่น พลาสติกเพื่อป้องกันการหกรั่วไหล ลงสู่พื้นดินหรือพื้นน้ำ
- ไม่เก็บไว้ในสถานที่อับอากาศ
- ไม่เก็บไว้ใกล้กับจุดที่มีประกายไฟ เพราะอาจจะทำให้เกิดการระเบิดได้
- กำลังทำลายอย่างถูกวิธี ตามกฎหมายกำหนด
Showing 49–51 of 51 results