แบตเตอรี่รถไฟฟ้า Bellco BC6350 DC 6V 350Ah (6โวลท์ 350แอมป์)

แบตเตอรี่รถไฟฟ้า Bellco BC6350 DC 6V 350Ah (6โวลท์ 350แอมป์)

Bellco 6V 350Ah Deep Cycle Battery

แบตเตอรี่รถกอล์ฟ Bellco BC6350 6V 350Ah DC Deep Cycle Battery ประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้งานหลายประเภทสำหรับรถกอล์ฟ โซล่าเซลล์ เรือยนต์ รถกระเช้า รถโฟล์คลิฟท์ รถลากในโรงงาน รถพลังไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องขัดทำความสะอาด เครื่องสำรองไฟ โดยสามารถจ่ายไฟได้ยาวนาน ตอบสนองความต้องการใช้พลังงานที่สูงขึ้น

แบตเตอรี่แห้ง 6V 350Ah Battery Bellcoไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ใช้งานง่ายไฟแรง สามารถติดตั้งในที่ๆดูแลหรือเข้าถึงยาก รวมถึงกรณีรถกอล์ฟบริษัท โรงพยาบาล หรือ มหาลัย ที่มีคนขับหรือคนใช้งานหลายคน จึงอาจทำให้ไม่มีคนดูแลแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ Bellco 6V 350Ah ถ้านำมาใช้กับรถกอล์ฟนิยมต่ออนุกรมกัน 8ลูกเพื่อให้ได้แรงดันไฟฟ้า 48โวลท์(V) 225แอมป์(Ah)ซึ่งในการต่อแบบอนุกรมนี้แรงดันไฟฟ้าหรือโวลท์ จะเพิ่มขึ้นแต่ กระแสแอมป์จะไม่เพิ่มขึ้น ส่วนถ้านำแบตเตอรี่ตัวนี้ไปใช้กับระบบโซล่าเซลล์ก็สามารถนำมาต่ออนุกรมกัน2ลูกให้ได้แรงดันไฟฟ้า 12โวลท์ หรือต่อ4ลูกให้ได้แรงดันไฟฟ้า 24โวลท์ หรือต่อ8ลูกได้แรงดันไฟฟ้า48โวลท์ หรือต่อ 12ลูก ได้แรงดันไฟฟ้า 72โวลท์ ขึ้นอยู่กับระบบโซล่าเซลล์ที่ได้ออกแบบมา

แรงดันไฟฟ้า:
6-โวลท์ Deep Cycle – ใช้ได้กับรถกอล์ฟและอุปกรณ์เอนกประสงค์อื่นๆ

---

ข้อมูลเบื้องต้น:
ประจุไฟฟ้าที่ 20 ชม.: 350 แอมป์

ยาว: 295 มม.
กว้าง: 180 มม.
สูง:  406 มม.

สูงรวมขั้ว:  428 มม.

น้ำหนัก: 57 กก.

วิธีบำรุงรักษา

• ไม่ควรใช้งานเกินพิกัดของแบตเตอรี่
• ควรชาร์จไฟอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดการชาร์จไฟมากเกินไป น้อยเกินไป
• หลีกเลี่ยงกาารใช้งานในสภาวะแวดล้อมที่ร้อนเกินไป หรืออุณหภูมิน้ำกลั่นในแบตเตอรี่สูงเกินกว่า 50 C
• ตรวจสอบและรักษาระดับน้ำกลั่นให้เหมาะสม
• ห้ามก่อให้เกิดประกายไฟ ขณะชาร์จไฟ เพราะแบตเตอรี่อาจจะระเบิดได้ เนื่องจากแรงดันแก๊สที่เกิดขึ้นในขณะชาร์จไฟ
• ควรดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้แห้ง และสะอาดอยู่เสมอ
• รถกอล์ฟที่จอดไว้ไม่ใช้งานเป็นเวลานานๆ ควรชาร์จไฟเดือนละ1ครั้ง เพราะพลังงานไฟฟ้าจะลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากการจ่ายไฟด้วยตัวเอง

ความแตกต่างระหว่างแบตเตอรี่ดีฟไซเคิล deep cycle กับแบตเตอรี่รถยนต์

อะไรคือความแตกต่างระหว่างแบตเตอรี่รถยนต์ตะกั่วกรดปกติและแบตเตอรี่ Deep Cycle Battery?หากคุณเป็นคนที่ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์หรือเล่นรถไฟฟ้าก็อาจจะคุ้นเคยกับแบตเตอรี่ Deep Cycle Battery กันมาบ้าง
ทั้งแบตเตอรี่รถยนต์และแบตเตอรี่ Deep Cycle Batteryเป็นแบตเตอรี่ตะกั่วกรดที่ใช้สารเคมีแบบเดียวกันในการใช้งาน ความแตกต่างคือรูปแบบการใช้งานที่ถูกออกแบบมาเฉพาะทาง
– แบตเตอรี่ของรถยนต์ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้จ่ายกระแสไฟฟ้าจำนวนมากในช่วงเวลาสั้น ๆ ประจุของกระแสไฟนี้จำเป็นสำหรับการหมุนเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ท เมื่อเครื่องยนต์เริ่มเดินรอบแล้วจะมีไดชาร์จมาช่วยจ่ายพลังงานให้พลังงานทั้งหมดที่รถต้องการดังนั้นแบตเตอรี่รถยนต์จึงต้องการกระแสไฟฟ้าจำนวนมากในชั่วขณะหนึ่ง แบตเตอรี่รถยนต์จึงใช้แผ่นธาตุบาง ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวของมัน
– แบตเตอรี่ Deep Cycle ถูกออกแบบมาเพื่อให้กระแสคงที่ในระยะเวลานาน แบตเตอรี Deep Cycle สามารถให้กระแสไฟได้ตลอดเวลาเมื่อใช้งาน จึงมีแผ่นธาตุของแบตเตอรี่ที่หนากว่า แบตประเภทนี้จึงมีน้ำหนักมากกว่า

แบตเตอรี่รถยนต์มักจะมีค่าตัวเลขมา 2 ค่า 
CCA (Cold Cranking Amps) – จำนวนแอมป์ที่แบตเตอรี่สามารถผลิตได้ที่ 32 องศาฟาเรนไฮต์ (0 องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 30 วินาที
RC (ความจุสำรอง) – จำนวนนาทีที่แบตเตอรี่สามารถสร้างประจุได้ 25 แอมป์ในขณะที่รักษาแรงดันไฟฟ้าไว้ที่ 10.5 โวลต์
โดยทั่วไปแบตเตอรี่ Deep Cycle จะมีค่า RC สองเท่าหรือสามเท่าของแบตเตอรี่รถยนต์ แต่จะจ่ายไฟเพียงครึ่งหนึ่งหรือสามในสี่ของค่า CCA ทั้งหมด นอกจากนี้แบตเตอรี่ Deep Cycle สามารถทนต่อการปล่อยประจุ / ชาร์จซ้ำได้หลายร้อยรอบในขณะที่แบตเตอรี่รถยนต์ได้ถูกออกแบบมาให้ปล่อยประจุออกมหาศาลในคราวเดียว

แบตเตอรี่ ดีฟไซเคิล Deep cycle Battery มักจะพูดถึงค่า

DOD หรือ Dept of Discharge ซึ่งมักจะบอกเป็นรอบ cycle หรือรอบการใช้งานแบตเตอรี่ เทียบกับเปอร์เซ็นต์ความลึกของการใช้งานในแต่ละรอบ หรือสามารถอธิายในลักษณะของกราฟได้ เช่น แบตเตอรี่ลูกนี้ที่80% DOD ใช้ได้ 500 cycle นั้น หมายถึง เมื่อเราดึงไฟจากแบตเตอรี่ออกไปใช้งาน80% แล้วชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาได้ถึง 500รอบ หรือ 500วัน(ถ้ารอบการชาร์จคือ1วัน)