Tel. 064-618-5975 , 02-077-2820 , 034-425095 | Line ID : @srpbattery
แบตเตอรี่รถกอล์ฟ 6V 8V 12V 48V
คู่มือเลือกแบตเตอรี่รถกอล์ฟ
เปรียบเทียบ 6V, 8V, 12V และระบบ 48V ต่างกันอย่างไร? พร้อมวิเคราะห์ราคาและคำแนะนำสำหรับรถทุกขนาด เพื่อให้คุณเลือกลงทุนได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

1. พื้นฐานที่ต้องรู้: 6V, 8V, 12V และระบบ 48V คืออะไร?
ก่อนจะเลือกรุ่นที่ใช่ เราต้องเข้าใจก่อนว่าตัวเลขเหล่านี้หมายถึงอะไร โดยทั่วไป รถกอล์ฟจะใช้ระบบไฟ 36V หรือ 48V ซึ่งเกิดจากการนำแบตเตอรี่ที่มีโวลต์ต่ำกว่ามาต่ออนุกรมกัน แรงดันไฟ (Volt) คือ “กำลัง” ส่วนแอมป์-ชั่วโมง (Ah) คือ “ความอึด” หรือระยะเวลาที่ใช้งานได้
คุณสมบัติ | แบตเตอรี่ 6V | แบตเตอรี่ 8V | แบตเตอรี่ 12V | ระบบ 48V (ภาพรวม) |
---|---|---|---|---|
ลักษณะเด่น | ดั้งเดิม ทนทาน Ah สูง | สมดุลที่สุด ลงตัว | อัตราเร่งดี ใช้จำนวนน้อย | มาตรฐานใหม่ กำลังสูง |
การใช้งาน | ขึ้นเนิน บรรทุกหนัก | ใช้งานทั่วไปทุกสภาพ | ทางเรียบ ต้องการความเร็ว | รถขนาดใหญ่ ทางชัน บรรทุกหนัก |
อายุการใช้งาน | ยาวนานที่สุด (ตะกั่ว-กรด) | ปานกลาง (4-6 ปี) | สั้นที่สุด (3-5 ปี) | ขึ้นอยู่กับแบตฯ ที่ใช้ (ลิเธียมทนสุด) |
ข้อดี | ทนทาน แรงบิดดี | สมดุลกำลังและราคา | ติดตั้งง่าย | ประสิทธิภาพสูงสุด ประหยัดไฟกว่า |
ข้อเสีย | ใช้จำนวนเยอะ หนัก | ราคาสูงกว่า 6V | Ah ต่ำ อายุสั้น | ราคาระบบโดยรวมสูง |
คลิกเพื่อดูการเปรียบเทียบราคาโดยประมาณ
ราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ นี่คือภาพรวมราคาโดยประมาณเพื่อช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณได้ง่ายขึ้น:
- แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด (ต่อลูก):
- 6V: ราคาประมาณ 3,500 – 5,000 บาท
- 8V: ราคาประมาณ 4,500 – 6,500 บาท
- 12V: ราคาประมาณ 5,000 – 7,000 บาท
- แบตเตอรี่ลิเธียม (LiFePO4) (ทั้งชุดสำหรับระบบ 48V):
- ราคาเริ่มต้นที่ 40,000 บาท ไปจนถึง 80,000+ บาท ขึ้นอยู่กับความจุ (Ah) และยี่ห้อ
ข้อสังเกต: แม้ลิเธียมจะแพงกว่าในตอนแรก แต่เมื่อคำนวณอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 3-5 เท่า และค่าบำรุงรักษาที่ไม่มีเลย อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว
2. ชมคลิป: การติดตั้งและเปรียบเทียบประสิทธิภาพ
การเห็นภาพจริงช่วยให้เข้าใจได้ดีที่สุด ชมวิดีโอสาธิตการติดตั้งและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ประเภทต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณ
3. รู้จักแบรนด์ชั้นนำและรุ่นยอดนิยม: รถของคุณเหมาะกับแบตเตอรี่แบบไหน?
รถกอล์ฟแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีระบบไฟฟ้าและพื้นที่ช่องใส่แบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน การรู้ข้อมูลเฉพาะของรถคุณจะช่วยให้เลือกแบตเตอรี่ได้แม่นยำที่สุด

Club Car: ราชาแห่งความทนทาน
ขึ้นชื่อเรื่องโครงสร้างอลูมิเนียมที่ไม่เป็นสนิมและทนทานสูง รุ่นยอดนิยมมักใช้ระบบ 48V
- รุ่นยอดนิยม: Precedent, Onward, DS
- ระบบแบตเตอรี่เดิม: ส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 8V จำนวน 6 ลูก (สำหรับระบบ 48V)
- ทางเลือกอัปเกรด: รุ่นเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการอัปเกรดเป็น แบตเตอรี่ลิเธียม 48V เพียงก้อนเดียว ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักรถได้มหาศาล (มากกว่า 100 กก.) ทำให้รถวิ่งเร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น และประหยัดพลังงานกว่าเดิม
E-Z-GO: ผู้นำด้านนวัตกรรม
เป็นแบรนด์ที่มีรุ่นหลากหลาย ทั้งระบบ 36V ในรุ่นเก่า และ 48V ในรุ่นใหม่ๆ มีความโดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีมอเตอร์
- รุ่นยอดนิยม: TXT, RXV
- ระบบแบตเตอรี่เดิม:
- TXT: หลายรุ่นเป็นระบบ 36V (ใช้แบตฯ 6V จำนวน 6 ลูก) เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- RXV: เป็นระบบ 48V ที่ใช้มอเตอร์ AC ให้การเบรกโดยใช้มอเตอร์ (regenerative braking) ที่ดีเยี่ยมและประหยัดพลังงานมากขึ้น มักใช้แบตฯ 12V จำนวน 4 ลูก หรือ 8V จำนวน 6 ลูก
- ทางเลือกอัปเกรด: การเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ลิเธียมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ Regenerative Braking ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
Yamaha: สัญลักษณ์แห่งความน่าเชื่อถือ
โดดเด่นด้านวิศวกรรมที่เชื่อถือได้และช่วงล่างที่นุ่มนวล เป็นที่นิยมทั้งในสนามกอล์ฟและใช้งานส่วนตัว
- รุ่นยอดนิยม: Drive / Drive2, G-Series (เช่น G29)
- ระบบแบตเตอรี่เดิม: คล้ายกับ Club Car รุ่นใหม่ๆ ของ Yamaha (เช่น Drive2) มักเป็นระบบ 48V ที่ใช้แบตเตอรี่ 8V จำนวน 6 ลูก
- ทางเลือกอัปเกรด: การอัปเกรดเป็นลิเธียมจะช่วยเสริมจุดเด่นด้านความนุ่มนวลในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น เพราะรถเบาลงและตอบสนองได้ดีขึ้นทันที
4. เลือกตามการใช้งาน: รถขนาดเล็ก vs รถขนาดใหญ่
เมื่อรู้จักรุ่นรถของตัวเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพิจารณาว่าจะนำรถไปใช้งานหนักแค่ไหน
สำหรับรถขนาดเล็ก (2-4 ที่นั่ง)

รถกอล์ฟขนาดเล็กเป็นรุ่นที่นิยมใช้มากที่สุด การเลือกแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและภูมิประเทศเป็นหลัก สำหรับใช้งานบนทางเรียบ บรรทุกน้ำหนักน้อย เช่น ในสนามกอล์ฟ หรือรีสอร์ท
- แนะนำ: ระบบ 36V (แบตฯ 6V x 6 ลูก) หรือ ระบบ 48V (แบตฯ 8V x 6 ลูก) ก็เพียงพอและคุ้มค่า
- กรณีพิเศษ: หากต้องวิ่งขึ้นเนินชันบ่อยครั้ง หรือมีการบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้น (เช่น 4 ที่นั่ง) การลงทุนกับระบบ 48V ตั้งแต่แรกจะให้กำลังที่ดีกว่า ขับขี่ได้ไม่ติดขัด
สำหรับรถขนาดใหญ่และรถใช้งานหนัก (6 ที่นั่งขึ้นไป / รถขนของ)

สำหรับรถที่ต้องรับภาระหนัก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้โดยสารหรือสิ่งของ การเลือกระบบแบตเตอรี่ที่ทรงพลังคือสิ่งจำเป็นอันดับหนึ่ง
- แนะนำ: ต้องเป็นระบบ 48V ประสิทธิภาพสูง (High-Output) เท่านั้น โดยเฉพาะ แบตเตอรี่ลิเธียม (LiFePO4)
- เหตุผล: รถขนาดใหญ่และบรรทุกหนักต้องการกระแสไฟสูงและต่อเนื่อง แบตเตอรี่ลิเธียมสามารถจ่ายไฟได้แรงคงที่จนแบตใกล้หมด ในขณะที่แบตตะกั่ว-กรดจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ การใช้แบตที่เล็กเกินไป (เช่น 12V) กับรถขนาดนี้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วมากและรถไม่มีกำลังขับเคลื่อน
5. สรุป: เลือกแบตเตอรี่รถกอล์ฟแบบไหนดีที่สุด?
ไม่มีคำตอบว่าแบตเตอรี่แบบไหน “ดีที่สุด” ในทุกสถานการณ์ แต่มีคำตอบว่าแบบไหน “เหมาะสมที่สุด” สำหรับคุณ โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก: 1. รุ่นรถและแบรนด์, 2. ลักษณะการใช้งาน, และ 3. งบประมาณ
สรุปให้ใน 1 นาที: เลือกแบตเตอรี่นี้…ถ้าคุณ…
- เลือก 6V (ในระบบ 36/48V): …ต้องการความทนทานสูงสุดในกลุ่มตะกั่ว-กรด ใช้งานหนัก ขึ้นเนินบ่อย และไม่เกี่ยงเรื่องการดูแลรักษา
- เลือก 8V (ในระบบ 48V): …ต้องการความสมดุลที่ลงตัวที่สุดระหว่างราคา, ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งาน เหมาะกับรถแทบทุกขนาดในการใช้งานทั่วไป
- เลือก 12V (ในระบบ 48V): …เน้นอัตราเร่งบนทางเรียบ ต้องการความสะดวกในการติดตั้ง (ใช้จำนวนน้อย) และยอมรับอายุการใช้งานที่สั้นลง
- เลือกลิเธียม 48V: …ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆ ด้าน, ไม่ต้องการการบำรุงรักษา, ใช้งานรถหนักและบ่อย, และมองเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า
สำหรับท่านใดที่ต้องการแบตเตอรี่รถกอล์ฟไว้ใช้งาน หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับรถของคุณ สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่บริษัท เอสอาร์พี แบตเตอรี่ จำกัด ได้ทางเบอร์โทร 064-618-5975 เรายินดีให้คำตอบกับทุกคำถาม เพื่อให้ทุกท่านได้แบตเตอรี่รถกอล์ฟที่ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย
บทความแนะนำ
เปรียบเทียบแบตเตอรี่ลิเธียมกับแบตเตอรี่ตะกั่วกรด: แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน?
คู่มือเลือกแบตเตอรี่รถกอล์ฟ 6V 8V 12V 48V: แบตแบบไหนเหมาะกับรถคุณ?
การเลือกแบตเตอรี่รถกอล์ฟที่ใช่สำหรับรถของคุณคือการลงทุนที่สำคัญ เพื่อประสิทธิภาพ ระยะทางการใช้งาน และอายุการใช้งานโดยรวมของรถกอล์ฟ บทความนี้จะเจาะลึกความแตกต่างของแบตเตอรี่รถกอล์ฟ 6V 8V 12V 48V รวมถึงระบบ 6V, 8V, 12V และระบบ 48V โดยจะวิเคราะห์ราคาและให้คำแนะนำสำหรับรถกอล์ฟทุกขนาด เพื่อช่วยให้คุณเลือกลงทุนได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

1. พื้นฐานที่ต้องรู้: แบตเตอรี่รถกอล์ฟ 6V 8V 12V 48V คืออะไร?
ก่อนจะเลือกรุ่นที่ใช่ เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าตัวเลขเหล่านี้หมายถึงอะไร โดยทั่วไป รถกอล์ฟจะใช้ระบบไฟ 36V หรือ 48V ซึ่งเกิดจากการนำแบตเตอรี่ที่มีโวลต์ต่ำกว่ามาต่ออนุกรมกัน แรงดันไฟ (Volt) คือ “กำลัง” ส่วนแอมป์-ชั่วโมง (Ah) คือ “ความอึด” หรือระยะเวลาที่ใช้งานได้
ต่อไปนี้คือตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นของแบตเตอรี่รถกอล์ฟแต่ละประเภท: แบตเตอรี่รถกอล์ฟ 6V 8V 12V 48V
คุณสมบัติ | แบตเตอรี่ 6V | แบตเตอรี่ 8V | แบตเตอรี่ 12V | ระบบ 48V (ภาพรวม) |
---|---|---|---|---|
ลักษณะเด่น | ดั้งเดิม ทนทาน Ah สูง | สมดุลที่สุด ลงตัว | อัตราเร่งดี ใช้จำนวนน้อย | มาตรฐานใหม่ กำลังสูง |
การใช้งาน | ขึ้นเนิน บรรทุกหนัก | ใช้งานทั่วไปทุกสภาพ | ทางเรียบ ต้องการความเร็ว | รถขนาดใหญ่ ทางชัน บรรทุกหนัก |
อายุการใช้งาน | ยาวนานที่สุด (ตะกั่ว-กรด) | ปานกลาง (4-6 ปี) | สั้นที่สุด (3-5 ปี) | ขึ้นอยู่กับแบตฯ ที่ใช้ (ลิเธียมทนสุด) |
ข้อดี | ทนทาน แรงบิดดี | สมดุลกำลังและราคา | ติดตั้งง่าย | ประสิทธิภาพสูงสุด ประหยัดไฟกว่า |
ข้อเสีย | ใช้จำนวนเยอะ หนัก | ราคาสูงกว่า 6V | Ah ต่ำ อายุสั้น | ราคาระบบโดยรวมสูง |
การเปรียบเทียบราคาโดยประมาณของแบตเตอรี่รถกอล์ฟ
ราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ นี่คือภาพรวมราคาโดยประมาณเพื่อช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณได้ง่ายขึ้น:
- แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด (ต่อลูก):
- แบตเตอรี่ 6V: ราคาประมาณ 3,500 – 5,000 บาท
- แบตเตอรี่ 8V: ราคาประมาณ 4,500 – 6,500 บาท
- แบตเตอรี่ 12V: ราคาประมาณ 5,000 – 7,000 บาท
- แบตเตอรี่ลิเธียม (LiFePO4) (ทั้งชุดสำหรับระบบ 48V):
- ราคาเริ่มต้นที่ 40,000 บาท ไปจนถึง 80,000+ บาท ขึ้นอยู่กับความจุ (Ah) และยี่ห้อ
ข้อสังเกต: แม้แบตเตอรี่ลิเธียมจะมีราคาสูงกว่าในตอนแรก แต่เมื่อคำนวณอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 3-5 เท่า และค่าบำรุงรักษาที่ไม่มีเลย อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว
2. ชมคลิป: การติดตั้งและเปรียบเทียบประสิทธิภาพ
การเห็นภาพจริงช่วยให้เข้าใจได้ดีที่สุด ชมวิดีโอสาธิตการติดตั้งและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ประเภทต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณ
รู้จักแบรนด์ชั้นนำและรุ่นยอดนิยม: รถของคุณเหมาะกับแบตเตอรี่รถกอล์ฟแบบไหน?
รถกอล์ฟแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีระบบไฟฟ้าและพื้นที่ช่องใส่แบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน การรู้ข้อมูลเฉพาะของรถคุณจะช่วยให้เลือกแบตเตอรี่รถกอล์ฟได้แม่นยำที่สุด
Club Car: ราชาแห่งความทนทาน
Club Car ขึ้นชื่อเรื่องโครงสร้างอลูมิเนียมที่ไม่เป็นสนิมและทนทานสูง รุ่นยอดนิยมมักใช้ระบบ 48V
- รุ่นยอดนิยม: Precedent, Onward, DS
- ระบบแบตเตอรี่เดิม: ส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 8V จำนวน 6 ลูก (สำหรับระบบ 48V)
- ทางเลือกอัปเกรด: รุ่นเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการอัปเกรดเป็นแบตเตอรี่ลิเธียม 48V เพียงก้อนเดียว ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักรถได้มหาศาล (มากกว่า 100 กก.) ทำให้รถวิ่งเร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น และประหยัดพลังงานกว่าเดิม
E-Z-GO: ผู้นำด้านนวัตกรรม
E-Z-GO เป็นแบรนด์ที่มีรุ่นหลากหลาย ทั้งระบบ 36V ในรุ่นเก่า และ 48V ในรุ่นใหม่ๆ มีความโดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีมอเตอร์
- รุ่นยอดนิยม: TXT, RXV
- ระบบแบตเตอรี่เดิม:
- TXT: หลายรุ่นเป็นระบบ 36V (ใช้แบตเตอรี่ 6V จำนวน 6 ลูก) เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- RXV: เป็นระบบ 48V ที่ใช้มอเตอร์ AC ให้การเบรกโดยใช้มอเตอร์ (regenerative braking) ที่ดีเยี่ยมและประหยัดพลังงานมากขึ้น มักใช้แบตเตอรี่ 12V จำนวน 4 ลูก หรือ แบตเตอรี่ 8V จำนวน 6 ลูก
- ทางเลือกอัปเกรด: การเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ลิเธียมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ Regenerative Braking ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
Yamaha: สัญลักษณ์แห่งความน่าเชื่อถือ
Yamaha โดดเด่นด้านวิศวกรรมที่เชื่อถือได้และช่วงล่างที่นุ่มนวล เป็นที่นิยมทั้งในสนามกอล์ฟและใช้งานส่วนตัว
- รุ่นยอดนิยม: Drive / Drive2, G-Series (เช่น G29)
- ระบบแบตเตอรี่เดิม: คล้ายกับ Club Car รุ่นใหม่ๆ ของ Yamaha (เช่น Drive2) มักเป็นระบบ 48V ที่ใช้แบตเตอรี่ 8V จำนวน 6 ลูก
- ทางเลือกอัปเกรด: การอัปเกรดเป็นลิเธียมจะช่วยเสริมจุดเด่นด้านความนุ่มนวลในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น เพราะรถเบาลงและตอบสนองได้ดีขึ้นทันที
4. เลือกตามการใช้งาน: รถขนาดเล็ก vs รถขนาดใหญ่
เมื่อรู้จักรุ่นรถของตัวเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพิจารณาว่าจะนำรถไปใช้งานหนักแค่ไหน
สำหรับรถขนาดเล็ก (2-4 ที่นั่ง)
รถกอล์ฟขนาดเล็กเป็นรุ่นที่นิยมใช้มากที่สุด การเลือกแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและภูมิประเทศเป็นหลัก สำหรับใช้งานบนทางเรียบ บรรทุกน้ำหนักน้อย เช่น ในสนามกอล์ฟ หรือรีสอร์ท
- แนะนำ: ระบบ 36V (แบตฯ 6V x 6 ลูก) หรือ ระบบ 48V (แบตฯ 8V x 6 ลูก) ก็เพียงพอและคุ้มค่า
- กรณีพิเศษ: หากต้องวิ่งขึ้นเนินชันบ่อยครั้ง หรือมีการบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้น (เช่น 4 ที่นั่ง) การลงทุนกับระบบ 48V ตั้งแต่แรกจะให้กำลังที่ดีกว่า ขับขี่ได้ไม่ติดขัด
สำหรับรถขนาดใหญ่และรถใช้งานหนัก (6 ที่นั่งขึ้นไป / รถขนของ)
สำหรับรถที่ต้องรับภาระหนัก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้โดยสารหรือสิ่งของ การเลือกระบบแบตเตอรี่ที่ทรงพลังคือสิ่งจำเป็นอันดับหนึ่ง
- แนะนำ: ต้องเป็นระบบ 48V ประสิทธิภาพสูง (High-Output) เท่านั้น โดยเฉพาะ แบตเตอรี่ลิเธียม (LiFePO4)
- เหตุผล: รถขนาดใหญ่และบรรทุกหนักต้องการกระแสไฟสูงและต่อเนื่อง แบตเตอรี่ลิเธียมสามารถจ่ายไฟได้แรงคงที่จนแบตใกล้หมด ในขณะที่แบตตะกั่ว-กรดจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ การใช้แบตที่เล็กเกินไป (เช่น 12V) กับรถขนาดนี้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วมากและรถไม่มีกำลังขับเคลื่อน
5. สรุป: เลือกแบตเตอรี่รถกอล์ฟแบบไหนดีที่สุด?
ไม่มีคำตอบว่าแบตเตอรี่แบบไหน “ดีที่สุด” ในทุกสถานการณ์ แต่มีคำตอบว่าแบบไหน “เหมาะสมที่สุด” สำหรับคุณ โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก: 1. รุ่นรถและแบรนด์, 2. ลักษณะการใช้งาน, และ 3. งบประมาณ
สรุปให้ใน 1 นาที: เลือกแบตเตอรี่รถกอล์ฟ 6V 8V 12V 48V
- เลือก 6V (ในระบบ 36/48V): …ต้องการความทนทานสูงสุดในกลุ่มตะกั่ว-กรด ใช้งานหนัก ขึ้นเนินบ่อย และไม่เกี่ยงเรื่องการดูแลรักษา
- เลือก 8V (ในระบบ 48V): …ต้องการความสมดุลที่ลงตัวที่สุดระหว่างราคา, ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งาน เหมาะกับรถแทบทุกขนาดในการใช้งานทั่วไป
- เลือก 12V (ในระบบ 48V): …เน้นอัตราเร่งบนทางเรียบ ต้องการความสะดวกในการติดตั้ง (ใช้จำนวนน้อย) และยอมรับอายุการใช้งานที่สั้นลง
- เลือกลิเธียม 48V: …ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆ ด้าน, ไม่ต้องการการบำรุงรักษา, ใช้งานรถหนักและบ่อย, และมองเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า
อ่านบทความดีๆ ได้ที่ >> หน้าข่าวสาร หรือดูคลิปดีๆ ได้ที่ >> youtube ช่องสาระพันแบตเตอรี่
ดูสินค้าได้ที่ >> แบตเตอรี่รถกอล์ฟไฟฟ้า รถไฟฟ้า รถกระเช้าไฟฟ้า