บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์

Share me++ แชร์ไปยัง..

รวบรวมวิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์และการเลือกใช้แบตเตอรี่รถยนต์ให้ตรงกับรถแต่ละรุ่นที่ทุกท่านใช้งาน ให้ตรงกับ ลักษณะการใช้งานของตนซึ่งจะมีการพูดถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้งาน และขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่ดังต่อไปนี้

 

สัญญาณต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่
บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ 1

6 สัญญาณบอกเหตุ “แบตเตอรี่รถยนต์” ใกล้หมดสภาพ ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ !!!

เป็นอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า “แบตเตอรี่” ถือเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งในการสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมันจะมีอายุการใช้งาน 1.5 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน แต่แทนที่จะรอให้เครื่องยนต์น๊อคหมดสภาพแล้วค่อยเปลี่ยน ยีเอส มีวิธีสังเกตอาการที่บ่งบอกถึงสัญญาณเตือนก่อนที่แบตจะหมด ดังนี้

1. เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ จะรู้สึกว่าเครื่องไม่ค่อยมีกำลัง สตาร์ทติดยากกว่าที่เคยเป็น
2. หลังจากจอดรถดับเครื่องแล้วทิ้งไว้สักครู่ หรือดับเครื่องเสร็จแล้วสตาร์ทใหม่ทันที รถจะสตาร์ทติดยาก ต้องพยายามสตาร์ทหลายๆ ครั้งถึงจะติด
3. ไฟส่องสว่างด้านหน้ารถยนต์ไม่ส่องสว่างเท่าเดิม
4. ระบบล็อคประตู และการทำงานของกระจกไฟฟ้าช้าลงกว่าปกติ อืดๆ ไม่เร็วเหมือนเดิม
5. แบตเตอรี่แบบเปียก น้ำกลั่นหมดเร็วกว่าเดิม ต้องเติมถี่ และบ่อยขึ้น
6. ถึงขั้นต้องพ่วงแบตฯ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ในการสตาร์ทรถยนต์ เพราะสตาร์ทรถไม่ติดเลย

สุดท้าย ผู้ขับขี่เองก็ต้องหมั่นเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย และเมื่อไหร่ที่เกิดอาการเหล่านี้ขึ้น จะได้รู้ว่า นีเป็น 6 สัญญาณเตือนให้คุณเตรียมตัวเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้เลย

เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์|แบตเตอรี่ GS รุ่น MFX90L
เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์|แบตเตอรี่ GS รุ่น MFX90L

credit:gsbattery

เลือกประเภทแบตเตอรี่รถยนต์ให้ตอบโจทย์รถยนต์ ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ”


แบตเตอรี่รถยนต์ถือเป็นหัวใจของรถยนต์ ทำหน้าที่ในการเก็บและสำรองไฟเพื่อใช้ในการสตาร์ทรถ รวมไปถึงทำหน้าที่จ่ายไฟให้อุปกรณ์ของรถในขณะดับเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ระบบฝาท้ายไฟฟ้า หรือ ไฟฉุกเฉิน เป็นต้น ดังนั้น การเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

GS BATTERY มีแบตเตอรี่รถยนต์มีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นอย่างไร?

  1. ประเภท MAINTENANCE FREE แบตเตอรี่พร้อมใช้ อึด มั่นใจ ไม่ต้องดูแล!
    จุดเด่น
  • สะดวก ใช้งานได้ทันทีไม่ต้องเติมน้ำให้เสียเวลา
  • อึดสู้ไปได้สุดทุกการใช้งาน! โดดเด่นเรื่องการผสานคุณสมบัติจาก “ตะกั่วแคลเซียม” ลดการสูญเสียน้ำกลั่นได้ดี ลดภาระการดูแลน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน*
  • มอบกำลังไฟสตาร์ทสูงแอมป์เต็ม 100%
  • ตอบโจทย์และครอบคลุมหลายรุ่นรถกลุ่มใช้งานทั่วไป**

1.1 ประเภท MAINTENANCE FREE รุ่น DURA TOUGH กลุ่ม DIN แบตเตอรี่รถยนต์ขั้วจม สเปคตรงรุ่น ไม่ต้องดัดแปลง!
จุดเด่น

  • สะดวก ใช้งานได้ทันที
  • โดดเด่นเรื่องการผสานคุณสมบัติจาก “ตะกั่วแคลเซียม” ลดการสูญเสียน้ำกลั่นได้ดี ลดภาระการดูแลน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน*
  • แผ่นธาตุผลิตโดยเทคโนโลยีทันสมัยด้วย “Carbon Technology” เสริมประสิทธิภาพในการนำไฟฟ้า พร้อมมอบกระแสไฟสูง
  • โครงสร้างแผ่นธาตุภายในออกแบบลักษณะบิดเกลียว (Twist Grid) เด่นเรื่องการยึดเกาะเนื้อแผ่นธาตุ เสริมพลังให้แบตเตอรี่จ่ายไฟได้อย่างสม่ำเสมอ
  • แผ่นกั้นชนิดพิเศษเอกสิทธิ์การออกแบบโดย GS BATTERY เพิ่มความคงทน ยืดอายุการใช้งาน*
  • มอบกำลังไฟสตาร์ทสูงแอมป์เต็ม 100%
  • ตอบโจทย์รถยุโรปและรถญี่ปุ่นรุ่นใหม่สำหรับใช้งานทั่วไปที่ใช้กลุ่มแบตเตอรี่ขั้วจม**

1.2 ประเภท MAINTENANCE FREE รุ่น DURA TOUGH กลุ่ม EFB แบตเตอรี่พร้อมใช้ อึด มั่นใจ ไม่ต้องดูแล!
จุดเด่น

  • สะดวก ใช้งานได้ทันที
  • แผ่นธาตุผลิตโดยเทคโนโลยีทันสมัยด้วย “Carbon Technology” เสริมประสิทธิภาพในการนำไฟฟ้า พร้อมมอบกระแสไฟสูง
  • โครงสร้างแผ่นธาตุภายในออกแบบลักษณะบิดเกลียว (Twist Grid) เด่นเรื่องการยึดเกาะเนื้อแผ่นธาตุ เสริมพลังให้แบตเตอรี่จ่ายไฟได้อย่างสม่ำเสมอ
  • แผ่นกั้นชนิดพิเศษเอกสิทธิ์การออกแบบโดย GS BATTERY เพิ่มความคงทน ยืดอายุการใช้งาน*
  • ทันสมัยยิ่งขึ้น! ด้วยแผ่นกริดสูตรเฉพาะ ผสมสาร Tin (Sn) ป้องกันการกัดกร่อน ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่*
  • ช่วยเพิ่มการรับและจ่ายไฟออกได้รวดเร็ว ทำให้แบตเตอรี่ชาร์จเต็มไว พร้อมออกตัวในทันทีด้วยคุณสมบัติพิเศษของสาร “ Lithium Inside” ในน้ำกรด
  • มอบกำลังไฟสตาร์ทสูงแอมป์เต็ม 100%
  • ตอบโจทย์รถยนต์ยุโรปและรถญี่ปุ่นรุ่นใหม่สำหรับกลุ่มรถใช้งานทั่วไป** ที่มีระบบ START-STOP หรือที่เรียกว่า ISS (Idling Stop System)

1.3 ประเภท SEALED MAINTENANCE FREE (SMF) แบตเตอรี่พร้อมใช้แบบฝาปิดสนิท อึด มั่นใจ ไม่ต้องดูแล!
จุดเด่น

  • สะดวก ใช้งานได้ทันที
  • พรีเมี่ยมขั้นสุด! นำเข้าจากประเทศตุรกี
  • ฝาแบตเตอรี่ปิดสนิท ไม่มีจุกสำหรับเติมน้ำกลั่น ทำให้ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน ลดโอกาสการสูญเสียหรือรั่วไหลของน้ำกรดในแบตเตอรี่
  • รูระบายไอกรดอยู่บริเวณด้านข้างของแบตเตอรี่ เหมาะกับการติดตั้งกับรถยนต์ที่ออกแบบการวางแบตเตอรี่ไว้ในห้องโดยสารหรือกระโปรงท้ายรถ
  • มอบกำลังไฟสตาร์ทสูงแอมป์เต็ม 100%
  • ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปอย่าง รถยุโรป
  1. ประเภท EXTRA HYBRID แบตเตอรี่ไฮบริด อึด ทนทาน คุ้มค่าทุกการใช้งาน!
    จุดเด่น
  • อึดสู้สุดชีวิต! ด้วยคุณสมบัติจาก “ตะกั่วพลวง” เด่นเรื่องทนความร้อนจากเครื่องยนต์ได้ดี พร้อมการผสานคุณสมบัติจาก “ตะกั่วแคลเซียม” ลดการสูญเสียน้ำกลั่นได้ดี ดูแลน้ำกลั่นน้อยลง*
  • มอบกำลังไฟสตาร์ทสูงแอมป์เต็ม 100%
  • ตอบโจทย์การใช้งานหนักเชิงพาณิชย์ สำหรับรถที่วิ่งเกินวันละ 90 กิโลเมตรต่อวันขึ้นไป เช่น รถกระบะและรถขนส่ง** เป็นต้น
  1. ประเภท CONVENTIONAL แบตเตอรี่เติมน้ำกลั่น อึด ยาวนาน ลุยงานหนัก!
    จุดเด่น
  • อึดสู้ทุกงานหนักไม่มีหวั่น! ด้วยคุณสมบัติจาก “ตะกั่วพลวง” เด่นเรื่องทนความร้อนจากเครื่องยนต์ อึดทุกการออกสตาร์ท อึดสู้ทุกการเดินทาง
  • มอบกำลังไฟสตาร์ทสูงแอมป์เต็ม 100%
  • ตอบโจทย์กลุ่มรถใช้งานหนัก สำหรับรถที่วิ่งเกินวันละ 90 กิโลเมตรต่อวันขึ้นไป เช่น รถบรรทุก รถบัส และรถทัวร์ เป็นต้น

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม สำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์

  1. แบตเตอรี่ใหม่: เลือกแบตเตอรี่ที่มีสเปคตรงกับรถยนต์ เช่น แรงดันไฟ (12 โวลต์สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่) และความจุไฟฟ้า (Ah) ที่เหมาะสม โดยเราจะอิงจากแบตเตอรี่ สเปคเดิมจากโรงงาน ว่ามีแอมป์เท่าไหร่ และ CCAเท่าไหร่
  2. เครื่องมือถอดแบตเตอรี่: เช่น ประแจเบอร์ 10 หรือเบอร์อื่นที่พอดีกับขั้วแบตเตอรี่ อาจจะมี บล็อก 6 เหลี่ยม เบอร์ต่างๆ ใช้ในกรณี คันตัวยึดฐาน หรือเหล็กรัดแบตเตอรี่
  3. ถุงมือป้องกัน: เพื่อป้องกันการสัมผัสสารเคมีหรือกรดจากแบตเตอรี่ เป็น อุปกรณ์ป้องกัน เพื่อไม่ให้ มือเรา สัมผัส กับ น้ำกรดที่อาจทำให้เราระคายเคืองมือ หรือมีอาการแสบร้อนได้
  4. แปรงหรือผ้าสะอาด: ใช้ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่และสายไฟ ซึ่งในการทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ ที่อาจจะเกิดคราบเกลือหรือคราบซัลเฟตเกาะบริเวณขั้วแบตเตอรี่ ยาว เราจะใช้แปลงหรือผ้าสะอาดรวมกับน้ำเปล่า เทลงไปที่ขั้วแบตเตอรี่ และใช้แปรงหรือผ้าสะอาดขัดถูเบาๆ ก็สารถทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่หรือคราบซัลเฟตได้แล้ว
  5. จาระบีหรือสเปรย์ป้องกันสนิม: เพื่อป้องกันการเกิดสนิมที่ขั้วแบตเตอรี่ โดยเราจะใช้ในปริมาณ ที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป เพราะหากเราทาจารบีที่ขั้วแบตเตอรี่มากเกินไป เมื่อแบตเตอรี่ทำงานแล้วขั้วแบตเตอรี่เกิดความร้อน ตัวจะระบี่ก็อาจจะไหลซ่อมให้แบตเตอรี่ หรือบริเวณแท่น วางมีความสกปรกหรือดักจับฝุ่น ต่างๆ 3 วา

ขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่

1. เตรียมความพร้อม

  • จอดรถในพื้นที่ราบ ปลอดภัย และเปิดฝากระโปรงหน้ารถ ในหลายๆครั้งหากเราจอดรถริมถนน และเรา ไม่ระวัง อาจจะถูกรถที่ขับผ่านไปมาเฉี่ยวชนได้
  • ดับเครื่องยนต์ ถอดกุญแจ และปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด เช่น ไฟหน้า วิทยุ และแอร์ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร สำคัญมากต้องนำกุญแจรถออกจากรถ เพราะว่าเมื่อเราใส่แบตเตอรี่ หากไฟฟ้า ตัดเข้าวงจร หรือเกิดการผิดพลาดตัวรถอาจจะทำการล็อค ทำให้เราไม่สารถเปิดรถได้
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีวัตถุโลหะ เช่น เครื่องมือหรือเครื่องประดับที่อาจสัมผัสขั้วแบตเตอรี่ ในกรณีนี้หมายถึงแหวน หรือ นาฬิกา ที่อาจจะไปสัมผัสกับตัวรถ และสัมผัสกับขั้วพร้อมกัน ทำให้เกิดการ สปาร์คของกระแสไฟฟ้า รวมถึงหัวเข็มขัด อาจจะไปเกี่ยว เสียดสีกับตัวสีรถได้ ต้องคอยระวัง

2. ถอดแบตเตอรี่เก่า

ขั้นตอน:

  1. ระบุขั้วบวกและขั้วลบ:
    • ขั้วบวกจะมีเครื่องหมาย “+” หรือสายสีแดง
    • ขั้วลบจะมีเครื่องหมาย “-” หรือสายสีดำ
  2. ถอดขั้วลบก่อนเสมอ:
    • ใช้ประแจคลายสายขั้วลบออกก่อน เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
    • คลายสกรูจนสายขั้วลบสามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย
  3. ถอดขั้วบวกทีหลัง:
    • ใช้ประแจคลายสายขั้วบวกออก โดยอย่าให้ประแจสัมผัสโลหะในบริเวณใกล้เคียง
  4. ถอดอุปกรณ์ยึดแบตเตอรี่:
    • ใช้ประแจคลายสกรูหรือแถบยึดที่ฐานแบตเตอรี่ออก
  5. ยกแบตเตอรี่ออก:
    • จับที่หูจับแบตเตอรี่ (ถ้ามี) และยกออกด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากแบตเตอรี่อาจมีน้ำหนักมาก

3. ทำความสะอาดขั้วสายไฟแบตเตอรี่

  1. ทำความสะอาดขั้วสายไฟ:
    • ใช้แปรงขัดขั้วสายไฟเพื่อกำจัดคราบสนิมหรือขี้เกลือที่สะสม
  2. ตรวจสอบขั้วสายไฟ:
    • ตรวจสอบความเสียหายของขั้วสายไฟ เช่น รอยฉีกขาดหรือหลวม
  3. ใช้จาระบีหรือสเปรย์ป้องกันสนิม:
    • ทาเล็กน้อยบริเวณขั้วสายไฟเพื่อป้องกันสนิมในอนาคต

4. ติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่

ขั้นตอน:

  1. วางแบตเตอรี่ใหม่ในตำแหน่งเดิม:
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขั้วบวกและขั้วลบอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
  2. ยึดแบตเตอรี่ให้แน่น:
    • ใช้สายรัดหรือสกรูยึดแบตเตอรี่กับฐานรองให้แน่นเพื่อลดการสั่นสะเทือนขณะขับรถ
  3. ต่อขั้วบวกก่อน:
    • ต่อสายขั้วบวกเข้ากับแบตเตอรี่ก่อน แล้วขันสกรูให้แน่น
  4. ต่อขั้วลบทีหลัง:
    • ต่อสายขั้วลบเข้ากับแบตเตอรี่ แล้วขันสกรูให้แน่น

5. ตรวจสอบความเรียบร้อย

  1. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ:
    • ขั้วแบตเตอรี่ต้องแน่นหนาและไม่มีหลวม
  2. เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า:
    • สตาร์ทรถและตรวจสอบว่าระบบไฟฟ้าทำงานปกติ
  3. กำจัดแบตเตอรี่เก่าอย่างถูกวิธี:
    • นำแบตเตอรี่เก่าไปทิ้งในสถานที่รับรีไซเคิลแบตเตอรี่ เช่น ร้านจำหน่ายแบตเตอรี่หรือศูนย์บริการ

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  1. ตรวจสอบสเปคแบตเตอรี่:
    • ตรวจสอบค่าแรงดันไฟและความจุของแบตเตอรี่จากคู่มือรถยนต์เพื่อเลือกแบตเตอรี่ใหม่ที่เหมาะสม
  2. ตรวจสอบอายุแบตเตอรี่:
    • แบตเตอรี่ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งาน 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
  3. บำรุงรักษาแบตเตอรี่:
    • ตรวจสอบแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันปัญหา เช่น น้ำกรดแห้งหรือขั้วแบตเตอรี่เป็นสนิม

ข้อควรระวัง

  • ห้ามสัมผัสขั้วบวกและขั้วลบพร้อมกัน
  • ห้ามวางเครื่องมือหรือวัตถุโลหะบนแบตเตอรี่
  • หากแบตเตอรี่มีการรั่วไหลของน้ำกรด ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสและทำความสะอาดด้วยน้ำผสมเบกกิ้งโซดา

หากคุณไม่มั่นใจหรือไม่มีเครื่องมือครบถ้วน แนะนำให้ไปที่ศูนย์บริการหรือร้านแบตเตอรี่ที่มีผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย!