Tel. 064-618-5975 , 02-077-2820 , 034-425095 | Line ID : @srpbattery
วิธีจั๊มแบตเตอรี่ใน 5 ขั้นตอนง่ายๆ
Table of Contents
วิธีการจั๊มแบตเตอรี่ใน 5 ขั้นตอนง่ายๆ การจั๊มแบตเตอรี่เป็นทักษะพื้นฐานที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพบว่ารถของคุณไม่สามารถสตาร์ทได้เนื่องจากแบตเตอรี่หมด นี่คือคู่มือที่ครอบคลุมขั้นตอนการจั๊มแบตอย่างละเอียด พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาแบตเตอรี่ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
วิธีจั๊มแบตเตอรี่ใน 5 ขั้นตอนง่ายๆ วิธีจั๊มแบตเตอรี่: ขั้นตอนอย่างละเอียด
อุปกรณ์ที่ต้องใช้:
- สายพ่วงแบตเตอรี่ (Jumper Cables): สายพ่วงควรมีคุณภาพดี มีความยาวเพียงพอ (ประมาณ 10-15 ฟุต) เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อระหว่างรถสองคันได้โดยไม่เกิดปัญหา
- รถที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ (Good Samaritan Vehicle): ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ของรถคันนี้อยู่ในสภาพดีและมีประจุเพียงพอ
ขั้นตอนการจั๊มแบตเตอรี่:
- การจัดเตรียม:
- จอดรถทั้งสองคันให้ใกล้กันพอสมควร แต่ไม่ควรสัมผัสกัน โดยให้เครื่องยนต์ของทั้งสองคันดับสนิทและใส่เบรกมือไว้
- เปิดฝากระโปรงหน้าของทั้งสองคันเพื่อตรวจสอบแบตเตอรี่
- การตรวจสอบแบตเตอรี่:
- ตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่ทั้งสองคัน หากแบตเตอรี่มีรอยแตกร้าวหรือมีคราบขี้เกลือเยอะเกินไป ควรหลีกเลี่ยงการจั๊มแบตและพิจารณาเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
- ตรวจสอบขั้วบวกและขั้วลบของแบตเตอรี่ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถระบุได้อย่างถูกต้อง
- การเชื่อมต่อสายพ่วง (Jumper Cables):
- เชื่อมต่อปลายหนึ่งของสายพ่วงสีแดงกับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่รถที่หมด
- เชื่อมต่อปลายอีกด้านของสายพ่วงสีแดงกับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่รถที่ใช้งานได้
- เชื่อมต่อปลายหนึ่งของสายพ่วงสีดำกับขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่รถที่ใช้งานได้
- เชื่อมต่อปลายสุดท้ายของสายพ่วงสีดำเข้ากับพื้นโลหะที่สะอาดของรถที่แบตหมด ห่างจากแบตเตอรี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยปกติจะเป็นบริเวณชิ้นส่วนโลหะของเครื่องยนต์หรือโครงรถที่ไม่มีการเคลือบสีหรือสนิม
- การสตาร์ทเครื่องยนต์:
- สตาร์ทรถที่ใช้งานได้และปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานเป็นเวลา 3-5 นาที เพื่อให้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สามารถส่งผ่านไปยังแบตเตอรี่ที่หมดได้
- หลังจากนั้น ให้ลองสตาร์ทรถที่แบตเตอรี่หมด หากรถสตาร์ทติดแสดงว่าการจั๊มแบตสำเร็จ แต่หากยังไม่ติด ลองรออีกสักครู่แล้วสตาร์ทอีกครั้ง
- การถอดสายพ่วงอย่างปลอดภัย:
- เมื่อรถที่แบตหมดสตาร์ทติดแล้ว ให้ถอดสายพ่วงออกตามลำดับที่ตรงข้ามกับขั้นตอนการเชื่อมต่อ:
- เริ่มจากการถอดสายพ่วงสีดำออกจากพื้นโลหะของรถที่แบตหมด แล้วถอดจากขั้วลบของแบตเตอรี่รถที่ใช้งานได้
- ถอดสายพ่วงสีแดงออกจากขั้วบวกของแบตเตอรี่ทั้งสองคัน
- ปล่อยให้รถที่แบตเตอรี่หมดทำงานต่ออีก 10-15 นาที เพื่อให้แบตเตอรี่มีเวลาในการชาร์จพลังงานเพิ่ม
- เมื่อรถที่แบตหมดสตาร์ทติดแล้ว ให้ถอดสายพ่วงออกตามลำดับที่ตรงข้ามกับขั้นตอนการเชื่อมต่อ:
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการจั๊มแบตเตอรี่
- ตรวจสอบสภาพสายพ่วงก่อนใช้งาน: ก่อนใช้งานสายพ่วง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไม่มีรอยขาดหรือรอยแตกร้าว และตัวหนีบยังคงมีสภาพที่ดี
- เลือกพื้นที่ที่ปลอดภัย: ควรทำการจั๊มแบตในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี ไม่ควรทำในพื้นที่ปิด เช่น ในโรงรถ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมก๊าซที่เกิดจากแบตเตอรี่
- ระวังการสัมผัสโลหะ: ระหว่างการจั๊มแบต ควรระวังไม่ให้ปลายสายพ่วงสัมผัสกัน เพราะอาจเกิดประกายไฟที่เป็นอันตรายได้
การดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน
เพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่หมดอย่างกะทันหัน คุณสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลรักษาแบตเตอรี่ดังต่อไปนี้:
- ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ:
- ขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบออกไซด์หรือสนิมอาจทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถส่งผ่านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ด้วยแปรงขนเหล็กและสารทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ
- ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ (สำหรับแบตเตอรี่แบบเติมน้ำ):
- หากคุณใช้แบตเตอรี่แบบที่ต้องเติมน้ำกลั่น ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ทุกเดือน และเติมน้ำกลั่นเมื่อระดับน้ำลดลงต่ำกว่าเครื่องหมายที่กำหนด
- หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าขณะดับเครื่องยนต์:
- การใช้ไฟหน้ารถหรือระบบเสียงขณะดับเครื่องยนต์อาจทำให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว ควรปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อดับเครื่องยนต์
- ขับรถเป็นประจำ:
- หากคุณไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ควรขับรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งหรือสตาร์ทรถและปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานสักระยะเพื่อให้แบตเตอรี่มีการชาร์จอย่างต่อเนื่อง
- ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า:
- ระบบไฟฟ้าที่มีปัญหาอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้รวดเร็วกว่าปกติ หากพบว่าแบตเตอรี่มีการหมดเร็วเกินไป ควรให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบระบบไฟฟ้าของรถเพื่อหาสาเหตุ
ความสำคัญของการใช้แบตเตอรี่คุณภาพสูง
การเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาแบตเตอรี่หมดหรือเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว นอกจากการเลือกใช้แบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับยานพาหนะของคุณแล้ว การดูแลรักษาแบตเตอรี่เป็นประจำยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
บริษัท เอสอาร์พีแบตเตอรี่ จำกัด มีแบตเตอรี่คุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมบริการคำปรึกษาและการดูแลรักษาแบตเตอรี่จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ายานพาหนะของคุณจะพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์
อ่านบทความดีๆ ได้ที่ >> หน้าข่าวสาร หรือดูคลิปดีๆ ได้ที่ >> youtube ช่องสาระพันแบตเตอรี่